ศรัทธานั้นมาจากความไว้วางใจ ไว้วางใจอะไร? เป็นการยากมากสำหรับผู้คนส่วนใหญ่ในโลกทุกวันนี้จะไว้ใจใคร เพราะต่างก็เคยมีประสบการณ์ของการถูกหลอกลวง คดโกง ของคนไม่ซื่อ แม้กระทั่งบางครั้งเขาก็กล่าวถึงพระเจ้า ด้วยความไม่ไว้ใจ
เหตุผลที่ผู้คนไว้ใจดาดี้ ไม่ได้มาจากการที่ดาดี้พยายามที่จะทำให้เขาไว้ใจ ดาดี้ไม่ต้องใช้ความพยายามเลย เราก็เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งเท่านั้น แต่นั่นเป็นเพราะความปรารถนาอันลึกล้ำและความรู้สึกบริสุทธิ์ใจกับทุกคน ที่จะทำให้เขาไว้วางใจตนเองได้ โดยไม่ร้องขอให้ใครไว้ใจเรา แล้วผู้คนเหล่านั้นจะเริ่มที่ไว้วางใจตนเองได้อย่างไร นี่คือสิ่งที่เราควรประมวลชีวิตที่มีอยู่ ว่าจะเริ่มไว้วางใจสถานการณ์รอบๆ ตัว และชะตากรรม ว่าจะพาเราไปที่ไหน อย่างไรก็ตามเราควรเริ่มไว้วางใจพระเจ้า โดยไม่จำเป็นที่ใครจะไว้วางใจฉันผู้เป็นมนุษย์ ต่อเมื่อใครได้ค้นพบความไว้วางใจในตนเอง ในชะตากรรมและสถานการณ์ และในพระเจ้า เวลานั้นนั่นเองที่เขาจะรู้ความหมายของคำว่า “ไว้วางใจ” คืออะไรจริงๆ
นั่นไม่ใช่เรื่องของการไว้วางใจในตัวฉัน หรือตัวเธอ หรือใครก็ตาม เพราะว่าความไว้วางใจแบบนั้นสามารถถูกตัดขาดไปได้ ด้วยความเข้าใจผิด หรือมีใครบางคนบอกเรื่องอะไรที่เล่าต่อกันไป เป็นข่าวลือ เป็นการซุบซิบนินทา ที่เข้ามาทดสอบสภาพของเราว่าขึ้นอยู่กับตัวเราเองได้จริงหรือไม่
เมื่อสองคนมีความสัมพันธ์ที่ดี แล้วมีบุคคลที่สามเข้ามาทำให้เสียความสัมพันธ์ นี่คือกลไกของละคร ที่มาพร้อมกับข้ออ้าง เหตุผล และเรื่องราวมากมายที่บัญชีกรรมยังไม่จบ เราต้องบอกตนเองเสมอที่จะไม่มีวันหยุดไว้วางใจ ถ้าเขาบอกเราว่าเขาหยุดที่จะไว้วางใจเราแล้ว เราก็เพียงแต่อยู่เงียบๆ ด้วยความซื่อสัตย์ ที่เต็มไปด้วยความรักและความปรารถนาดีอย่างมาก และย้ำกับตนเองว่า “ฉันจะจัดการกับตนเองข้างใน แล้วจะดึงเอาความไว้วางใจของเธอกลับคืนมา” เวลาจะมาถึงเอง โดยไม่จำเป็นต้องพูด หรือเปล่งเสียงออกไปว่า “ฉันจะพยายามอย่างหนักเนื่องจากมีบัญชีกรรมอะไรบางอย่างที่ยังไม่จบสิ้น” เราจะต้องปล่อยไป ให้ทุกอย่างเป็นไปตามเวลา โดยไม่มีวันพูดว่าจบสิ้นกันทีหรือมีการตัดขาดความสัมพันธ์ต่อกัน เพราะการทำแบบนี้บ่งชี้ว่าเราไม่ไว้วางใจใครรวมทั้งตนเองด้วย นี่คือความขี้ขลาดอย่างแรงของคนที่เล่นเกมนี้กับชีวิต ถ้าเราทำผิดและคนอื่นก็ทำผิดเหมือนกัน ก็ขอให้เราเข้มแข็งพอและรู้คิดว่าอย่าปล่อยให้ความไว้วางใจแตกสลาย แม้ใครต้องทำผิดต่อหน้าหรือเป็นสิ่งไหนที่ไม่พึงประสงค์ เราต้องสามารถให้อภัยต่อความผิดนั้นได้ ถ้าเขาสูญเสียความไว้วางใจในฉันและฉันก็สูญเสียความไว้วางใจในเขา ทุกคนอื่นก็จะเป็นเหมือนกันหมด เท่ากับว่าเราก็ลดความไว้วางใจจนสูญสิ้นไปกับผู้คน จนไม่หลงเหลือความไว้วางใจให้กับใครเลยในโลก แล้วเราจะเหลืออะไร ชีวิตเช่นนี้ไม่มีวันมีความสุข นิสัยของการสูญสิ้นความไว้วางใจจะกลายเป็นสันสการ์ เป็นร่องรอยของความไม่ไว้วางใจ ซึ่งทำให้หัวใจเราหดหู่และไม่มีความสุขในที่สุด เราไม่ควรจะสูญสิ้นความไว้วางใจในใคร หรือละเลิกความหวังในผู้ใด ถ้าเราสูญสิ้นความไว้วางใจในใครวันนี้ เราก็จะเริ่มจดจำทุกสิ่งที่ผ่านมาแล้วโดยเฉพาะความผิดที่เกิดขึ้นในอดีต แล้วเราจะเห็นได้ว่าเราขาดความไว้วางใจ จากการตัดสินผู้อื่นบนพื้นฐานของอดีตกรรม ราวกับว่าเราไม่เห็นค่าของความไว้วางใจเลย แสดงว่าเราไม่เคยศรัทธาในสิ่งไหนได้อย่างแท้จริง อย่าได้ปล่อยให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น เราต้องตระหนักถึงคุณค่าของความไว้วางใจจนถึงที่สุดด้วยความปรารถนาดีและความรู้สึกที่บริสุทธิ์ ที่ออกมาจากหัวใจที่จริงแท้ของเราเอง ซึ่งอาจจะใช้เวลา แต่เราจะต้องทำงานอย่างไม่รู้เหนื่อยที่จะช่วยเขาด้วยความรักจากหัวใจ ก็เพราะความไว้วางใจเป็นแสงของชีวิตของเรา การอยู่อย่างไม่ไว้วางใจผู้อื่น เท่ากับการไม่มีชีวิต เมื่อเราสูญสิ้นความไว้วางใจในตนเองหรือผู้อื่น นั่นก็คือการสูญสิ้นความไว้วางใจกับพระเจ้าด้วยเช่นกัน (ดาดี้ แจงกี)
Be the first to comment.